Monday, June 5, 2017

หลักการของเครื่องส่งและเครื่องรับระบบ FM

ระบบวิทยุ FM
ในการส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างจุดสองจุดจะต้องผ่านทางสื่อกลางหรือตัวกลาง (สื่อ )เพื่อเป็นคุณตัวเชื่อมต่อในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การส่ง Thailand ข้อมูลกระดานข่าวด้านแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกันดังนี้  
1. ระบบที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพาหะ (ระบบฐานไฟฟ้า) ระบบเครือข่ายระบบไฟฟ้า 
2. ระบบที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Base Systems) ระบบการสื่อสารข้อมูลระบบวิทยุกระจายเสียงและระบบชีวภาพ 
3. ระบบที่ใช้คลื่นแสงเป็นพาหะ (แสงระบบฐาน) ได้แก่ ระบบสื่อสารข้อมูลผ่านแสงอินฟราเรดที่ นำไปประยุกต์ใช้เช่นระบบเครือข่าย LAN ไร้สายบลูทู ธ (Bluetooth)      เส้นใยนำแสง (Fiber Optic) รีโมทคอล โทรล (การควบคุมระยะไกล) คอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) เลเซอร์ (Laser) เป็นต้น       
สำหรับระบบการสื่อสารไร้สายมีหลายรูปแบบเช่นเดียวกับที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายหรือไม่ อาจทำได้หรือไม่ แต่คุ้มค่าทั้งในห้างหุ้นส่วนจำกัดแง่หัวเรื่อง: การลงทุนหัวเรื่อง: การดูแลรักษาและซ่อมบำรุง เป็นต้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การสื่อสารไร้ระบบผู้ซื้อสินค้าคุณสายสื่อตัวกลาง จะมีคุณสมบัติเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีจำนวนมากในระดับที่ต่างกันในการกำหนดการใช้งานแบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ 
การประยุกต์ใช้งานด้านการสื่อสารที่ต่างกัน
·  -  ระบบสื่อสารวิทยุสื่อสารในแบบที่สอง
·  -  ระบบวิทยุติดตามตัว
·  -  ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่
·  -  ระบบสื่อสารผ่านทาง
·  -  ระบบสื่อสารด้วยระบบแสงอินฟราเรด
·  -  ระบบการสื่อสารส่วนบุคคล PCS / PCN

·  - ระบบกระจายเสียงและโทรทัศน์ 
4.1  ระบบวิทยุกระจายเสียง
4.1.1  การส่งวิทยุกระจายเสียง ( Radio Broadcasting)
วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติตรงกับวันที่ 25  กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันที่กำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงอย่างเป็นทางการของประเทศไทยโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7)  ได้โปรดเกล้าฯให้แก่ พิธีเปิด “ สถานีวิทยุกรุงเทพฯที่พญาไท”  ณ วังพญาไทเมื่อวันที่ 25  กุมภาพันธ์ 2473  ซึ่งตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคล ในสมัยนั้น
พร้อมทั้งอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยถ่ายทอดสดผ่านสายเข้าเครื่องส่งกระจายเสียงสู่พสกนิกรด้วยกำลังส่ง  2.5  กิโลวัตต์โดยมีใจความตอนหนึ่ง ว่า  " การวิทยุกระจายเสียงที่ได้ริเริ่มจัดตั้งขึ้น และห้องทดลองใช้งานตลอดจนการดูแลผู้ป่วยเอดส์ ชาชน "  และได้มีพัฒนาการแพร่หลายเร้ามาโซลปัจจุบัน
ระบบการส่งวิทยุกระจายเสียงที่ผ่านมา ในอดีตเริ่มจากการเปลี่ยนเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้าในระบบอนาล็อก  (Analog)  แล้วนำสัญญาณเสียงผสมกับคลื่นความถี่วิทยุ ทำการส่งออกอากาศการส่งวิทยุกระจายเสียงยุคแรกเป็นการส่งระบบ  AM (Amplitude Modulation)  ซึ่ง ส่งกระจายเสียงในย่านความถี่ MW (กลางคลื่น)  อุปกรณ์ที่ใช้งานในการส่งวิทยุ กระจายเสียงคือเครื่องเล่นแผ่นเสียงเทปบันทึกเสียง ฯลฯ เป็นอุปกรณ์ร มีการพัฒนาการส่งเสียงในระบบ FM (Frequency Modulation) ใช้ คลื่นเสียงความถี่วิทยุกับคลื่นความถี่วิทยุโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุในการรับสัญญาณจากเครื่องเสียง ในระบบ AM  ส่งกระจายเสียงในย่านความถี่ VHF (88-108 MHz)  และในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนการ ส่งวิทยุกระจายเสียงเป็นระบบดิจิตอล <a i = 13> (Digital) สัญญาณเสียงจะถูกเข้ารหัสเป็นสัญญาณระบบผู้ซื้อสินค้าดิจิตอลและผสมกับคลื่นวิทยุทำการส่งออกอากาศส่วนอุปกรณ์หัวเรื่อง: การส่งวิทยุกระจายเสียงเช่นอุปกรณ์ห้องส่งจะมีหัวเรื่อง: การเปลี่ยนจากเนชั่ระบบผู้ซื้อสินค้าอนาล็อกเป็นระบบผู้ซื้อสินค้าดิจิตอลคือจะใช้คอมพิวเตอร์มาทดแทนอุปกรณ์ แผ่นรองแผ่นดิสก์แผ่นดิสก์แผ่นดิสก์แผ่นดิสก์แผ่นดิสก์แผ่นดิสก์ ะต้องทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการ ทำผังรายการวิทยุการผลิตรายการวิทยุการควบคุมการทำงานออกอากาศการสั่งงานด้วยระบบ การควบคุมระยะไกลอีกด้วย     

เครื่องรับวิทยุ
ประวัติ

         เครื่องรับวิทยุเกิดขึ้นในราว 2439 ในงานจัดแสดงของรัสเซียโดย Alexander Stepanovich Popov ในประเทศไทยยุคแรกประมาณปี พ.ศ. 2470 ติดตั้งเครื่องส่งวิทยุ AM ขนาด 200 วัตต์ที่ทำการไปรษณีย์เครื่องนับเป็นเครื่องแรกที่มีเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงเครื่องรับวิทยุในยุคก่อน ๆ เป็นชนิดที่มีเบาเบาและต้องใช้หูฟัง ชนิดหลอดสุญญากาศมีความดังมากขึ้น


2500 เป็นยุคเครื่องรับวิทยุทรานซิสเตอร์ แต่ระยะแรก ๆ ยังมีขนาดใหญ่มากและต่อมามีการพัฒนาอุปกรณ์และวงจรให้มีขนาดเล็กลงตามลำดับจนสามารถนำไปในสถานที่ต่างๆได้และมีการส่งทั้งระบบ AM และ FM ในห้างหุ้นส่วนจำกัดปัจจุบันเช่น หลักการทำงาน
        วงจรเลือกรับความถี่คุณวิทยุุ เนื่องจากสถานีส่งวิทยุหลาย ๆ สถานีแต่ละสถานีจะมีความถี่ของตนเองดังนั้นคุณต้องเลือกจะรับความถี่ที่ต้องการรับฟังในห้างหุ้นส่วนจำกัดข ะนั้น
        วงจรขยายความถี่วิทยุ ทำหน้าที่นำเอาสัญญาณความถี่วิทยุที่เลือกรับเข้ามามาทำการขยายสัญญาณให้มีกำลังแรงมากขึ้นเพียงพอกับความสามารถต้องการ
       วงจรดีเทคเตอร์ ทำหน้าที่ตัดคลื่นพาหะออกหรือดึงคลื่นพาหะลงคุณดินให้เหลือเฉพาะ สัญญาณความถี่เสียง (AF) อย่างเดียวเพียง       วงจรขยายสัญญาณเสียงทำหน้าที่ขยายสัญญาณทางคโทรนิคของเสียงให้มีกำลังแรงขึ้นก่อนที่จะส่งออกยังลำ งโพ       ลำโพง <a

  

           1. เครื่องรับวิทยุแบบแร่ (  Crystal Radio)





         เครื่องรับวิทยุสามารถทำได้ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า 

ตัวอย่างเครื่องวิทยุ  AM  แบบแร่

        
         2.  เครื่องรับวิทยุแบบ  Regenerative


 3.  เครื่องรับแบบจูนความถี่  สกว (Radio Frequency Tuned Receiver)


เครื่องรับสัญญาณ TRF เครื่องรับสัญญาณ TFR จะมีประสิธิภาพและเครื่องรับสัญญาณแบบกว้าง



TRF รับแบบฟอร์มจูนหลายครั้งเป็นวงจรที่มีการพัฒนาจากภาคแรก


        
4. เครื่องรับวิทยุแบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ ( Superheterodyne Receiver)
          เครื่องรับวิทยุ FM แบบ พิเศษ   มีช่อง  RF ที่รับสัญญาณเป็น  หลายเท่า




การกระจายคลื่นวิทยุกับ  AM
        600 KHz มีช่องว่างของแต่ละสถานีคือ  10 KHz  โดยมีองค์กรมาตรฐานกำกับธุรกิจกิจการโทรคมนาคม   ในห้างหุ้นส่วนจำกัดประเทศไทยว่าได้ด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์กำหนดแบนด์วิดท์ไม่เกิน  20 kHz   ในแต่ละประเทศมีหน้าที่จัดสรรสเปกตรัมความถี่ ใช้งานในแต่ละพื้นที่ ที่กำหนดบริเวณ หัวเรื่อง: การแพร่กระจายคลื่นวิทยุมีสองระบบผู้ซื้อสินค้าที่เป็นที่รู้จักคือระบบผู้ซื้อสินค้า  คาห์น  และระบบ  C-QUAM (Motorola)  คาห์น  มีการผสมความถี่หรือมอดูเลต แถ ความถี่ข้างของคลื่นพาห์  น  โดยข้างหนึ่งสำหรับช่องสัญญาณด้านซ้าย และอีกข้างหนึ่งสำหรับช่องสัญญาณด้านขวาเพื่อให้เป็นระบบแยกเสียงซ้ายขวาสำหรับระบบ C-QUAM  จะส่งสัญญาณโมโนบวกกับสัญญาณสเตอริโอ โดยตำแหน่งสัญญาณผลต่าง สัญญาณสเตอริโอจะผสมกับพาหะย่อยโดย มีวงจรถอดรหัสที่เครื่องรับวิทยุ
          
          

การกระจายสัญญาณ คลื่นความถี่ FM
        มาตรฐาน  FCC  กำหนดการกระจายเสียงย่าน  FM  ให้ีมีไซด์แบนด์  150 KHz  และให้มีแบนด์วิดท์สถานี  ละ 200 KHz  ซึ่งจะมีช่องว่างของความถี่ที่  ไม่มีสัญญาณส่ง 50 KHz  เป็นการ์ดแบนด์ ( ยามวง)  สำหรับป้องกันการรบกวน ช่วงความถี่  88 MHz  ถึง  108 MHz  สัญญาณ  FM แบบสเตอริโอหลายช่องสัญญาณเสียงสัญญาณดิจิตอลที่มีสัญญาณ L + R (สัญญาณเสียงสเตอริโอ) L + R Adder) เป็นสัญญาณและมี LR โดยกลับเฟส RNC 180 องศาแล้วไปรวมกับ L ได้ LR นำ LR ไปแบบโมโนเลียต (Balance Modulator) กับสัญญาณคลื่นลูกใหม่ 38 KHz แบบ AM 100% โดย กำจัดคลื่นสัญญาณออกด้วย USB กับ LSB สมมุติว่า (สัญญาณ Pilot) ความถี่ 19 KHz เป็นความถี่ที่มีความสำคัญในการส่งและรับ FM Stereo Multiplex ถูกส่งออกเป็นสองทางคือส่งเข้าในวงจรรวมสัญญาณทั้งหมดและส่งเข้าสู่วงจรทวีคูณความถี่ (Adder) จะรับสัญญาณทั้งสามคือ L + R (Mono), 19 KHz (สัญญาณนำร่อง (Pilot Signal) ) and ไซด์บาร์ด์ LR รวมกันส่งออกเป็น สัญญาณคอมโพสิตสเตอริโอ (สัญญาณคอมโพสิตสเตอริโอ) แล้วส่งไปผสมคลื่นความถี่ FM
       
 

1 comment: